Version... ต่างๆของโปรแกรม

ไม่รู้ว่าผมเรียกถูกหรือเปล่านะครับ ที่เรียกว่า "Version" เพราะวันนี้ผมจะมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวของตัวเวอร์ชั่นในโปรแกรมต่างๆนะครับ + -^- +



เริ่มกันด้วย Alpha - โดยตามหลักของวิศวกรรมซอฟต์แวร์แล้ว เวอร์ชัน Alpha คือเวอร์ชันที่ทดสอบกันในทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ เอากันจนเวิร์กระดับหนึ่ง (อาจจะยังไม่ค่อยเสถียรนัก) แล้วค่อยปล่อยเวอร์ชัน Beta ออกมา

/* ตัวอย่างที่ผมเคยเจอ ก็คือโปรแกรมเซฟเวอร์จำลองครับผม appserv-win32



Beta - คือ รุ่นที่ปล่อยให้ผู้ใช้งานได้ดาวน์โหลด ร่วมกันทดสอบบั๊ก ซึ่งเวอร์ชันนี้จะดาวน์โหลดมาเล่นก่อน แล้วรายงานผลการใช้งาน ส่งบั๊กกลับไปให้ทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ปรับปรุงอีกครั้ง

/* ตัวอย่าง Beta นี้ คงหาได้ง่ายนะครับ อย่าง GMail Beta ก็ยังมีเลย


RC (Release Candidate) - รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ทดสอบแก้ไขกันไปจนกระทั่งบั๊กตัวใหญ่ๆ หายไปเกลี้ยงแล้วค่อยปล่อยดาวน์โหลด ซึ่งจะเป็นเวอร์ชัน Final (ในภาษาวิชาการบางทีเรียกว่า Gamma Testing)

/* ตัวอย่างนี้ ก็อย่างเช่น Windows 7RC หรือ The World Browser Final


RTM ( Refer To Manufacturing) - เวอร์ชันที่พร้อมผลิตและจัดจำหน่าย ปั๊มเข้ากล่องมาขายให้พวกเรากันแล้ว อาทิ Micrsoft Windows Vista 32/64bit Final RTM Build 6000 ซึ่งถ้าเห็นเวอร์ชันแบบนี้นั่นแสดงว่าปลอดบั๊กแล้วเป็นรุ่นน่าใช้งานที่สุด


Build คือรุ่นที่กำลังพัฒนาบั๊กอื้อซ่า เป็นรุ่นทดลองใช้งาน ตามด้วยโค้ดเนมที่เป็นหมายเลข แต่อยากดันปล่อยให้ทดสอบ ซึ่งก็จะได้แก่ เวอร์ชัน Beta 1, Beta 2, RC 1, RC 2 แล้วแจ้งบั๊กรายงาน

/* ตัวอย่างเช่น AVG


Demo คือ รุ่นที่สมบูรณ์แล้วตัดฟังก์ชันการใช้งานบ้างอย่างออกไป เพื่อป้องกันแฮกเกอร์ถอดรหัส หรือทำการ Crack เพื่อให้ได้งานอย่างสมบูรณ์ และสามารถทดสอบใช้งาน ถ้าพึงพอใจก็ลงทะเบียนซื้อมาใช้งานก็จะได้ฟังก์ชันเต็มครบทุกอย่าง

/* หากันได้ง่ายๆทั่วๆไปเลยครับ เช่น endnote 9 Demo


Trial รุ่นนี้ก็เป็นรุ่นที่สมบูรณ์เช่นกันแต่จะให้ทดลองใช้งาน เช่น 7 วัน 30 วัน 60 วัน แล้วก็จะให้ลงทะเบียน หรือใส่ Serial Number ถึงจะเข้าใช้โปรแกรมได้

/* คงไม่ยกตัวอย่างหรอกนะครับ เพราะเห็นกันได้โดยทั่วไป


Shareware เป็นรุ่นทดลองใช้งานเหมือนกัน สมบูรณ์แล้ว แต่จะจำกัดกำเข้าใช้ เช่น 27 ครั้ง 30 วัน 7 วัน ฯลฯ เมื่อใช้งานครบแล้ว ตัวโปรแกรมก็จฟ้องว่าหมดอายุ ไม่สามารถใช้งานต่อได้ จะต้องลงทะเบียน หรือใส่ S/N

/* คงไม่ต้องยกตัวอย่างอีกเช่นกันครับ


Freeware รุ่นที่พัฒนาไม่เห็นแก่ส่วนตัว บริจาคให้ใช้งานฟรี ไม่คิดเงิน ไม่จำกัดฟังก์ชั่น ไม่กำหนดวันหมดอายุ

/* ผมก็ขอให้รุ่นนี้มีเยอะๆนะครับ อิอิ

จับข้อความในหน้าต่าง Error

วิธีการนี้นั้นคือจับข้อความ ในปีอปอับอะไรแนวนี้หล่ะครับ วิธีการนั้นก็ง่ายล้านง่ายเลยครับ แค่กด Ctrl + C ซึ่งเป็นคีย์ลัดในการก๊อปปี้ยอดนิยมนั้นแหละ หลังจากกดแล้วก็อาจจะมีเสียงดับ "ตึ้ง" ก็ไม่ต้องตกใจเพราะมันจะเป็นยังงั้น เหอะๆ และวิธีการหลังจากนั้น ก็คือการวางข้อความที่ได้ก๊อปปี้ อันนี้ก็แล้วแต่แล้วกันว่าจะทำอย่างไร

เอาละครับ ผมจะลองทดสอบวิธีการทำดู โดยการเข้า Notepad แล้วพิมพ์คำว่า "XXX" แล้วก็กดออกไปเลย ในตอนนั้นนั่นเองที่วินโดว์จะแสดงข้อความถาม ในที่นี้คือถามว่าต้องการบันทึกงานมั้ย ระหว่างนี้ให้เรากด Ctrl + C จะได้ยินเสียง "ตึ้ง" เสร็จแล้วก็กด Save หลังจากนั้น ก็นำเคอเซอร์เมาส์ไปวางใน Notepad แล้วก็กด Ctrl + V ซึ่งเป็นคีย์ลัดในการวาง ก็จะเห็นข้อความที่ได้ก๊อปปี้มาจากหน้าต่างป๊อปอับแล้วครับ ซึ่งข้อความในกรณีนี้ ก็เป็นเหมือนด้านล่างเลยละ /^*^\

---------------------------

Notepad

---------------------------

The text in the Untitled file has changed.

Do you want to save the changes?

---------------------------

Yes No Cancel

---------------------------

ส่วนประโยชน์ของมันนะหรอครับ ? ก็ใช้ในกรณีอย่างแอบพลิเคชั่นหรือ OS ของเรามีปัญหา ซึ่งเราจะเอาข้อความเออเรอนี้ไปโพสบนเน็ตให้ผู้รู้ช่วย เราก็ใช้วิธีการนี้แทนการมานั่งพิมพ์ทีละตัวได้ยังไงละครับ ประหยัดเวลาพร้อมข้อความที่ได้นั้นถูกต้องแบบเป๊ะๆด้วย

วินโดว์ กลับหาง (กลับหัว) ???

คือว่าผมได้มีโอกาสลองที่มหาวิทยาลัยมาแล้วนะครับ มันเกิดจากความบังเอิญของการแย่งกันเล่นคอม นั่นก็คือ ทุกๆสิ่ง (ที่เป็นซอฟต์แวร์ในคอมฯ) นั้นมันกลับหัวกลับหาง กันไปหมด ไม่ว่าจะเอียงซ้าย เอียงขวา คว่ำหน้า โดยวิธีการทำนั้น ทำได้โดยการกด Alt + Tap + Ctrl + <ลูกศรชี้ทิศทาง> โดยลูกศรชี้ทิศทางนั้น ถ้ากดไปทางไหน หน้าจอวินโดว์ก็จะตามทางนั้น และถ้าต้องการเปลี่ยนคืน ก็ให้กดเหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนให้ไปกดลูกศรชี้ขึ้น ซึ่งเป็นมาตรฐานของวินโดว์ แทนครับ

แต่... เมื่อผมนำวิธีการนี้ มาลองที่บ้าน ปรากฏว่า ใช้งานไม่ได้ครับ ?? ผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างไร ยังงงอยู่ ณ ตอนนี้ (ผู้รู้โปรดชี้แจงด้วย)

* อ้อ ขอแถมท้ายนิดหนึ่งนะครับ ตอนที่ลองอยู่มหาวิทยาลัยนั้น ผมได้ลองกด Alt + Tap + Ctrl + <ลูกศรชี้ไปทางซ้าย> แล้วปิดเครื่องทั้งอย่างนั้น แต่พอเปิดขึ้นมา วินโดว์ก็จะกลับมาตั้งตรงเหมือนเดิมนะครับ


ขอให้สนุกกับวินโดว์ท่าพิศดารนะครับ ฮ่าๆๆๆ :P

"The World" ก็แค่อยากแนะนำบราวเซอร์ตัวเก่านะ !

หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ The World Browser กันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับคนที่ไม่รู้ ผมจะมาแนะนำในบทความนี้กันครับ...

ผู้ที่ผลิต The world ออกมานั้น มีชื่อบริษัทว่า Phoenix Studio โดยบราวเซอร์ของ The World นั้น จะทำงานโดยผนวกตัวเองเข้ากับบราวเซอร์ตัวเก่าของเรา สังเกตได้จาก กดที่เมนู Tools > Options... แล้วจะเห็นหน้าตาของอ๊อปชั่นเป็นเหมือนกันบราวเซอร์ตัวเก่าของเรา แต่ในเมนู Tools นั้น ก็ยังมีตัวเลือกบางอย่างที่บราวเซอร์ตัวเก่าของเรานั้นไม่มี เช่น Clean History... จะเป็นการลบประวัติเว็บอันเก่าซึ่งจะทำได้ซะดวกกว่าบราวเซอร์ตัวเก่า

คุณสมบัติของ The World นั้น มีมากเลยละครับ ในเวลาที่เราโหลดไฟล์นั้น จะสามารถหยุดการทำงานชั่วคราวได้ ซึ่งคุณสมบัตินี้ นั้นเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว แต่จะมีบางอันที่จะต้องโหลดเข้ามาเพิ่ม เช่น โน๊ตจดบันทึก(ตลอดกาล) หรือ ตัวแถบสีคั่นข้อความในเว็บ ในกรณีที่เราจะอ่านเว็บกลับไปกลับมา และ Plugin อีกมากมายหลายประการเลยครับ

ส่วนหน้าตาของ The World นั้นก็มีให้เลือก แบบโคตรเยอะเลย สวยงามกันทั้งน๊านๆๆ โดยในตอนนี้ The World Browser นั้น ออกมาเป็นเวอร์ชั่น 2.4.0.9 แล้วครับ

และสุดท้าย ตามที่ผมได้เคยใช้งานมาเป็นปีๆ ขอบอกได้เลยว่า สุดยอด + สวยงามมาก !!! และใครที่สนใจอยากจะลองใช้ดู ก็ขอเชิญที่เว็บ http://www.ioage.com/en/plugins.htm เลยครับ และเท่าที่เคยได้ยินมานั้น รู้สึกว่า Browser ตัวนี้ ออกมากันนานแล้ว แต่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก และ Browser ตัวนี้ ก็ยังเป็นทีนิยมในญี่ปุ่นด้วยครับ :) .......

แบ่งไฟล์ ด้วย WinRAR

เคยเห็นมั้ยครับ เวลาที่เราโหลดเกมแล้วไฟล์เกมจะมีคำว่า .part1.rar , .part2.rar , .part3.rar ... ตามหลังมาด้วย
บทความนี้ จะมาสอนวิธีการแบ่งไฟล์แบบนั้นครับ โดยเริ่มต้นเลย ก็ต้องมี WinRAR หรือไม่ก็
โปรแกรมบีบอัดไฟล์เสียก่อน คิดว่าทุกคนคงมีกันแล้ว (ผมจะใช้ WinRAR ในการทำนะครับ ใครโปรแกรมอื่นก็ประยุกต์เอา) ขั้นต่อไปก็เลือกไฟล์ที่ต้องการแบ่ง โดยคลิกขวาที่ไฟล์ เลือก
Add to archive... แล้วกำหนดขนาดของไฟล์ โดยมีหน่วยเป็นไบต์ที่ช่องด้านล่าง เสร็จแล้วก็กดปุ่ม OK ทีนี้เราก็จะได้ไฟล์หลายไฟล์แล้ว ซึ่งถ้าเราจะเอาไปแบ่งปัน (แชร์นั้นแหละ) ให้คนอื่น แล้วเราทำวิธีการแบ่งไฟล์นี้ก่อน ก็อาจจะเกิดปัญหาเวลาอับโหลด แล้วเน็ตหลุด ไฟล์เสีย นั้นมีน้อยมาก
เอาเป็นว่าแนะนำให้ทำวิธีนี้ก่อนอับโหลดไฟล์ขึ้นไปฝากเอาไว้ยังเว็บฝากไฟล์ต่างๆแล้วกันนะครับ เพราะผู้โหลดที่เน็ตอืดๆก็พอมีกำลังใจในการโหลดขึ้นมาบ้าง (จากประสบการณ์จริง ฮ่าๆ)




เอาละครับ เมื่อแบ่งไฟล์แล้ว ต่อไปเราก็จะมาลองต่อไฟล์กันดูบ้าง โดยคลิกที่ไฟล์ .part1.rar แล้วเลือกแตกไฟล์แบบธรรมดาไปเลย

ง่ายมั้ยครับ... :D